วอลโว่ ทรัค... เตรียมส่งบรรทุกไฟฟ้าสู่ถนน และผลกระทบตลาดในไทย ต่อการเติบโตของธุรกิจขนส่ง
ข่าวทั้งหมด : / วอลโว่ ทรัค... เตรียมส่งบรรทุกไฟฟ้าสู่ถนน และผลกระทบตลาดในไทย ต่อการเติบโตของธุรกิจขนส่ง
วอลโว่ ทรัค... เตรียมส่งบรรทุกไฟฟ้าสู่ถนน และผลกระทบตลาดในไทย ต่อการเติบโตของธุรกิจขนส่ง
เรื่องจริงของโลกวิทยาการ
คือทุกๆวัน โลกของเราจะพัฒนาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
จนเราท่านแทบจะตามความทันสมัยของโลกใบนี้แทบไม่ทัน และหนึ่งในนั้น
ก็คือเรื่องของรถยนต์ ที่ในวันนี้วิทยาการและความก้าวหน้า
ไม่ได้จำเพาะเจาะจงลงไปแค่สนองตอบเรื่องราวของรถยนต์นั่งเพียงเท่านั้น
แต่เทคโนโลยี โดยเฉพาะกับเรื่องของเทคโนโลยีไฟฟ้านั้น
กำลังก้าวกระโดดไปสู่รถยนต์ประเภทขนส่ง ใช่แล้วครับ ฟังไม่ผิดรถขนส่ง หรือเจ้า “รถบรรทุก”
นั่นเอง
ในวันนี้โลกของยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกแล้วว่า โลกของเรากำลังเดินเข้าสู่ยุคจักรกลไฟฟ้า พลังไฟฟ้ามีราคาที่ถูกกว่าน้ำมัน ไม่มีวันหมดสิ้น ให้ผลกระทบต่อโลกใบนี้น้อยกว่าปิโตรเลียม ที่สำคัญมันกำลังจะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้หลุดพ้นยุคน้ำมัน
หากย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว มาบอกว่ารถยนต์และรถบรรทุกทั้งโลก
กำลังจะกลายเป็นการใช้รถไฟฟ้าแทนรถน้ำมัน คงหัวเราะ แต่วันนี้ใครจะกล้าค้านคงยาก
เพราะยักษ์ใหญ่ในวงการไม่ว่าจะเป็น VOLVO ISUZU TESLA VOLKSWAGEN ทุกคนกำลังมุ่งมั่นสร้างรถยนต์
และที่สำคัญสร้างรถบรรทุกไฟฟ้าเพื่อออกมาทำตลาดในอนาคต เมื่อไม่นานนี้
เรายังกล่าวกันว่าอีก 4-5 ปีข้างหน้าโครงการรถบรรทุกไฟฟ้า
จะมีรถออกมาวิ่งกันแต่ว่าเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ในสื่อออนไลน์เว็บไซด์ Electrek.com
ได้กล่าวยืนยันแล้วว่า Volvo Truck มีแผ่นจะส่งรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ให้เข้ามาสู่สายงานขนส่งให้กับลูกค้าบางรายที่ได้รับการเลือก ให้ใช้งานรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าแบบ
100% จึงคาดการณืได้ว่ารถบรรทุกไฟฟ้าจากค่ายวอลโว่
น่าจะมาสู่ตลาดเร็วกว่าที่คิด และน่าจับตาว่าทิศทางของเทคโนโลยีการขนส่งของโลกนั้น
กำลังจะเปลี่ยนไปเร็วช้า มากน้อยเพียงใด
ย้อนกลับมาดูในประเทศไทย
เมื่อไม่กี่วันก่อนได้มีการแถลงข่าวถึง สภาพการณ์ของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยและภูมิภาค
และรวมไปถึงการแย้มพรายถึงความเป็นไปได้ในเรื่องของรถบรรทุกไฟฟ้าที่อาจจะมีการเปิดตัวที่เร็วมากยิ่งขึ้น
แม้ว่า ตลาดรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ในปี พ.ศ. 2560 หดตัวถึง 6.3% ดีกว่าที่เคยคาดการณ์ ไว้ในช่วงกลางปี ว่า ณ สิ้นปี ตลาดน่าจะหดตัวลงแรงถึงประมาณ 10-12% แต่เหตุการณืก้กลับไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่คาดคิด ทั้งนี้สิ่งที่เอื้อให้ตลาด กลับมากระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังมาจากการอัดแคมเปญของแต่ละค่าย แต่เนื่องจากผลการลงทุนภาครัฐในด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภค ยังมีความคืบหน้าน้อย กว่าที่คาดหวัง จึงดันตลาดโตเป็นบวกไม่ได้
นายกําลาภ
ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จํากัด
ซึ่งเป็นผู้ผลิต และจัดจําหน่ายรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์
เปิดเผยว่าตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่และขนาด กลางเมื่อปีที่แล้ว หดตัวลงประมาณ 6.3% จาก
25,178 คันในปี 2559 มาเป็น 23,600 คันในปี 2560 โดย รถบรรทุกขนาดใหญ่ลดลงประมาณ
5.1% จาก 17,172 คันในปี 2559 มาเป็น 16,293 คันเมื่อปีที่แล้ว
ในขณะที่รถบรรทุกขนาดกลางลดลงมากถึง 8.7% จาก 8,006 คันในปี 2559 มาเป็น 7,307 คัน
เมื่อปีที่แล้ว
“ปีที่แล้ว
เราเคยคาดการณ์ไว้ช่วงกลางปีว่าตลาดน่าจะหดตัวลง ด้วยการลงทุนภาคเอกชนที่ลดลง
การใช้
จ่ายภาครัฐในการก่อสร้างขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเราจึงเชื่อมั่นว่าตลาดจะดิ่งลงในอัตราที่
10-12% แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้
กลับดีขึ้นกว่าที่คิดด้วยเพราะรถบรรทุกแต่ละค่าย ต่างดันรถรุ่นใหม่ ๆ
แคมเปญทั้งงานขาย งานบริการออกมานําเสนอ เพื่อดันยอดขายให้ได้ตามเป้า” นายกําลาภ กล่าว
อย่างไรก็ตาม
ในปีนี้เริ่มมีสัญญาณที่เป็นบวกมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคที่รัฐบาล
โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคําสั่งตามมาตรา 44 เมื่อปลายปี
ที่แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง
จัดทําผังพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ Eastern Economics
Corridor (EEC) ให้เสร็จภายใน เดือนกรกฎาคม
2561ซึ่งนโยบายนี้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนจากต่างประเทศ
โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีน ซึ่งหากเป็นไปตามคําสั่งรัฐบาลมาตรา 44
ก็จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
“เราต้องยอมรับนะครับว่าเมื่อปี
2559 ตลาดโตมาถึง 8% แต่เมื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างและการอุปโภค
บริโภคภายในประเทศไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ทําให้มีการชะลอคําสั่งซื้อรถบรรทุกเพราะรถที่สั่งซื้อไป
ยังคงวิ่งไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงไม่จําเป็นต้องเร่งสั่งซื้อรถใหม่ในปีที่ผ่านมา”
นายกําลาภ กล่าว
นายกําลาภ ยังกล่าวว่าสําหรับวอลโว่
กรุ๊ป นั้น มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จาก 1,191 คันเมื่อปี 2559 มาเป็น 1,251
คันเมื่อปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นรถวอลโว่ ทรัคส์ 365 คัน และรถยูดี ทรัคส์ 895 คัน
ซึ่งถือว่า ดีกว่าตลาดโดยรวมที่มีอัตราเติบโตติดลบประมาณ 6.3%
ทั้งนี้เป็นผลจากการเปิดตัวรถบรรทุกขนาดกลาง ยูดี โครเนอร์ เมื่อต้นปีที่แล้ว
นายกําลาภ
กล่าวว่าปัจจัยเสริมที่จะมีส่วนกระตุ้นตลาดรถบรรทุกในปี นี้คือการเร่งเดินหน้า EEC
การ คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังคาดไว้ในปี
นี้จะเติบโตถึง 4.2% รวมไปถึง
ตัวเลขการเติบโตของการส่งออกมีการปรับเป้าปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6.6%
จากที่เคยกําหนดไว้ที่ 5.7% และ ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 38.2
ล้านคนเติบโต 8% และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวแตะ ระดับ 2.05 ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้น 12.6% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก
“สิ่งเหล่านี้
เรามองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจที่จะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย
รวมไปถึงแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กําลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
ซึ่งเราหวังว่าจะกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อ รถบรรทุกใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย
โดยเรามองว่าตลาดน่าจะมีการเติบโตที่ 5% สอดคล้องกับการเติบโตเศรษฐกิจ
แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตามองคือการเลือกตั้งในประเทศไทย
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เป็ นสิ่งที่เรา ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด” นายกําลาภ กล่าว
ทางด้านนายสาววิลาวัลย์
วิศปาแพ้ว รองประธานกรรมการฝ่ ายการตลาดและงานสนับสนุนการขาย กล่าว
เพิ่มเติมว่าธุรกิจรถบรรทุกในขณะนี้กําลังเผชิญกับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี
เช่นเดียวกับธุรกิจมากมาย โดยเฉพาะยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งวอลโว่
กรุ๊ป ได้ให้ความสําคัญ ต่อเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
“ล่าสุด
เราได้มีประกาศที่ประเทศสวีเดนว่าในปีนี้
เรามจะเริ่มทดลองนํารถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%
ออกใช้งานและปีหน้าจะเริ่มทําการตลาดในทวีปยุโรปก่อน ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับโลก
เทคโนโลยียานยนต์ แน่นอน
สิ่งเหล่านี้ย่อมจะมีผลต่อการพิจารณาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สําหรับ
ตลาดประเทศไทย” นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
Volvo Trucks ให้บริการด้านการขนส่งที่ครบครันสำหรับมืออาชีพและลูกค้าที่มีความต้องการสูง
ตั้งแต่รถบรรทุกระดับปานกลางไปจนถึงรถบรรทุกสำหรับการใช้งานหนัก จากเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วโลกกว่า
2,200 รายและศูนย์ซ่อมบำรุงในอีกกว่า 125 ประเทศ รถบรรทุก Volvo
มีการประกอบใน 15 ประเทศทั่วโลก ในปี 2015 มีการส่งมอบรถบรรทุก Volvo
มากกว่า 113,000 คันทั่วโลก Volvo
Trucks เป็นส่วนหนึ่งของ Volvo Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกในสายรถบรรทุก
รถบัสและเครื่องมือก่อสร้าง และระบบขับเคลื่อนสำหรับใช้ในการเดินเรือและอุตสากรรม
และ Volvo Group ยังมีโซลูชันสำหรับแผนการชำระเงินและการซ่อมบำรุงอีกด้วย
การทำงานของ Volvo ตั้งอยู่บนพื้นฐานของค่านิยมด้านคุณภาพ
ความปลอดภัย และการรักษาสิ่งแวดล้อม
อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com
ขอขอบคุณ : วอลโว่ กรุ๊ป
แสดงความคิดเห็น
คำค้นหาทั่วไป
กีฬาแต้มเท่าผีไฮไลท์ พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกแมนเชสเตอร์ เอฟเวอร์ตันบาร์เซโลน่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษอังกฤษพรีเมียร์ลีกคูตี้ชูมาเน่น้องเมยโดนซ้อมแฉ “น้องเมย”เตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ มารีญาพันชีวิตสุดมันส์ วิ่งนักวิ่งไทย-เทศสิงห์เติมจี๊ด!ร่วมวิ่งแอดเวนเจอร์ ข่าวกีฬาย้อนหลังรอบโลกกีฬาก้าวสู่ปีที่ 7สุโขทัยมาราธอน 2017′วิ่งเพื่อมรดกโลกศึกวอลเลย์บอลปลื้มจิตร์-นุศราโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตกีฬาโปรอาร์มธงชัย ใจดี โชคชัยจีทีเอ็มมอเตอร์สปอร์ตไทยToyota Motorsportสายสปีดโคราชพิสูจน์ความเร็วซิ่งกระกาย สุดมันส์กลางเชียงใหม่Super Car GTMโตโยต้า ทีมไทยแลนด์เรซที่ 3 Division 1รถยนต์โตโยต้า86ศึก RAATศึกซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2017ซูเปอร์คาร์จีทีเอ็มสนามช้างไทยแลนด์ เรซซิ่งนักบิดมวยไชยาฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2017ถ่ายทอดสดฟุตบอลผลบอลสดเอเอฟซี ชิงชนะเลิศฟุตบอลสถิติเมืองทองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเจลีกคู่แข่ง ACLเจลีกคัพข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตารางคะแนนกีฬาที่น่าสนใจ